5 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับโธมัส ทูเคิลผู้จัดการทีมคนใหม่ของเชลซี

5 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับโธมัส ทูเคิลผู้จัดการทีมคนใหม่ของเชลซี

โธมัส ทูเคิ่ล คือผู้จัดการทีมคนใหม่ของเชลซีแบบสดๆ ร้อนๆ โดยสำหรับแฟนบอลทั่วไปคงจะรู้จักเขานับตั้งแต่คุมดอร์ทมุนด์ ก่อนจะต่อด้วยการรับงานที่เปเอสเช ซึ่งการมาทำงานในลีกที่ดีที่สุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จะทำให้การจับจ้องไปที่ตัวของเขามากขึ้นกว่าที่เป็นมา

ฉะนั้นแล้วในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับกุนซือรายนี้ให้มากขึ้น ผ่านบทความที่มีชื่อว่า 5 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับโธมัส ทูเคิลผู้จัดการทีมคนใหม่ของเชลซี ซึ่งตัวของเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เราไปตามอ่านกันได้ด้านล่างนี้


เชลซีทีมช่วงชีวิตของทูเคิ่ล

1. ช่วงชีวิตของทูเคิ่ล ในฐานะนักค้าแข้ง

หากเอ่ยถึงชื่อ โธมัส คูเคิ่ล สัก 15-20 ปีก่อน คงไม่มีใครรู้จักเขาเป็นแน่ เว้นเสียแต่แฟนบอลชาวเยอรมันที่ติดตามข่าวสารวงการฟุตบอลอย่างลุ่มลึก เพราะชื่อชั้นของนักเตะรายนี้จัดว่าโนเนมอย่างยิ่งสำหรับวงการฟุตบอลเมืองเบียร์

  • เส้นทางลูกหนังของโธมัส ทูเคิ่ล เริ่มต้นกับการเป็นเด็กในอคาเดมีของเอ๊าส์บวร์ก กับตำแหน่งกองหลัง แต่เมื่อถึงวัยอันควรเจ้าตัวไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้ ทำให้อาชีพนักค้าแข้งต้องวนเวียนอยู่ในลีกรองของเยอรมัน
  • อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง นับเป็นความโชคร้ายของ โธมัส ทูเคิ่ล เพราะมันทำให้เส้นทางในอาชีพนักเตะของเขาต้องสิ้นสุดลงในวัยเพียง 25 ปี ซึ่งอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่ามีผลกระทบต่อการเล่นที่ไม่สามารถใส่ได้เต็มร้อย

เชลซีทีมจุดเริ่มต้นของอาชีพโค้ช

2. จุดเริ่มต้นของอาชีพโค้ช

จากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่มีผลต่อตัวของทูเคิ่ลต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันสมควร ทำให้เจ้าตัวต้องหันเหไปจับงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล สุดท้ายอาชีพโค้ชคือบทบาทครั้งใหม่ของเจ้าตัว

  • การที่นักเตะคนหนึ่งต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควร ทำให้นักเตะรายนั้นๆ ต้องไปหาอาชีพหรือบทบาทใหม่ทำ ซึ่งทูเคิ่ลเลือกเรียนวิชาชีพโค้ช เพื่อหวังว่าจะได้ทำงานในด้านฟุตบอลต่อไป โดยอย่างน้อยๆ คือการคุมทีมระดับเยาวชนที่ไหนสักแห่งก็เพียงพอแล้ว
  • โธมัส คูเคิ่ล ได้รับโอกาสจากทัพม้าขาว สตุ๊ตการ์ต ให้ทำหน้าที่คุมทีมในอคาเดมี่ของสโมสร กระทั่งวันเวลาและการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุดของเจ้าตัว ทำให้ทูเคิ่ลค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้คุมทีมเยาวชนอายุ 19 ปี
  • ฝีมือการขัดเกลาเยาวชนลูกกรอกวัยคะนองของทูเคิ่ล เริ่มเป็นที่ร่ำลือในแวววงฟุตบอลระดับเยาวชนว่าเขานั่นคือมือทองในการปั้นเด็กตัวจริงเสียงจริง ก่อนที่กลิ่นของความเนื้อหอมจะไปเตะจมูกสโมสรอื่น จนมีผลให้ตัวเขาถูกดึงตัวไปรับงานคุมทีมเยาวชนสโมสรอื่น ได้แก่ เอ๊าส์บวร์กและ ไมนซ์ 05 ซึ่งได้แชมป์บุนเดสลีก้าในระดับเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปีอีกด้วย

เชลซีทีมเส้นทางการเป็นโค้ช

3. เส้นทางการเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ เริ่มต้นในวัย 35 ปี

ผู้ชายอายุ 35 ปี หากเป็นนักเตะอาชีพก็คงอยู่ในช่วงบั้นปลายและพร้อมจะแขวนสตั๊ด แต่สำหรับโธมัส ทูเคิ่ล มันคือขวบวัยที่เขาสะสมประสบการณ์ในบทบาทโค้ชมาครบ 1 ทศวรรษพอดิบพอดี

  • การทำงานในฐานะเฮดโค้ชชุดเยาวชนของ ทูเคิ่ล กำลังอยู่ในภาวะสุกงอมเต็มที่กับการทำงานด้านนี้มา 10 ปี เพราะเขาสามารถปลุกปั้นเยาวชนจนได้ดี รวมถึงพาทีมได้แชมป์ลีกในระดับเยาวชน
  • ยอร์น อันเดอร์เซ่น คือโค้ชชุดใหญ่ของไมนช์ 05 ที่พาทีมกลับขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งในเวลานั้น ซึ่งเขาถูกตั้งความหวังว่าจะเป็นผู้สานต่อการคุมจากเยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ขยับตัวไปคุมดอร์ทมุนด์ แต่การกลับลีกสูงสุดหนนี้ส่อแววว่าจะไม่รอด สุดท้ายบอร์ดบริหารจึงสั่งปลด พร้อมกับแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามารับตำแหน่งแทน
  • ฤดูกาล2009/10 คือปีแรกที่ทูเคิ่ลเริ่มทำงานเป็นเฮดโค้ชทีมชุดใหญ่กับไมนช์ 05 พร้อมกับพาทีมทำงานได้ดีเกินคาดจนจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 9 ทั้งที่ก่อนออกสตาร์ทตั้งเป้าว่าขออยู่รอดเท่านั้น
  • ชื่อเสียงของทูเคิ่ลเริ่มดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งวงการฟุตบอลเยอรมัน กับบทบาทเฮดโค้ชอายุน้อย เพราะนักเตะที่เขามีอย่างจำกัดแถมชื่อชั้นยังจัดอยู่ในเกรดโนเนม แต่ทูเคิ่ลสามารถทำทีมให้มีผลที่ดีกับอันดับกลางตาราง กระทั่งสุดท้ายสามารถนำทีมผ่านเข้าไปเล่นยูโรป้า ลีก เป็นครั้งแรกของสโมสร ในปี 2014 พร้อมกับอำลาทีมไปหลังจบฤดูกาล ซึ่งนับเป็นการปิดฉาก 5 ปีกับสโมสรอย่างสวยงาม

เชลซีทีมการรับบทบาท

4. การรับบทบาทผู้สืบทอดจากเยอร์เก้น คล็อปป์

การทำงานอย่างต่อเนื่องมา 15 ปี ทำให้ ทูเคิ่ลขอพักผ่อนและเว้นวรรคจากวงการลูกหนังเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นในฤดูกาลถัดมาเขาได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต คือการก้าวไปคุมทัพเสือเหลือง อย่าง ดอร์ทมุนด์ แทนที่เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่อำลาทีมไป

  • เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดเป็นกุนซือระดับตำนานของทัพเสื้อเหลือง เพราะสามารถนำทีมคว้าแชมป์และขับเคี่ยวกับบาเยิน มิวนิค ได้สูสีที่สุด แต่จากผลงานสุดบู่ในฤดูกาล 2014 ทำให้คล็อปป์ตัดสินใจลาออกจากทีมไป
  • การจะสรรหาเฮดโค้ชคนใหม่มาแทนที่คล็อปป์ จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อไม่ให้ทีมเสียทรงไป ก่อนที่สุดท้ายจะจบลงด้วยการดึง โธมัส คูเคิ่ล เข้ามา เพราะเล็งเห็นในเรื่องของการเป็นเฮดโค้ชหนุ่มไฟแรง แถมยังมีประสบการณ์ในการคุมทีมระดับบุนเดสลีก้า
  • การเข้ามาคุมทัพเสือเหลืองของทูเคิ่ล ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เพราะนำทีมกลับมาจอดป้ายในฐานะรองแชมป์ ส่วนในบอลถ้วยกับฟุตบอลยุโรป พวกเขาจัดว่าโชคร้ายหลายครั้ง จนทำให้ทีมไม่สามารถคว้าถ้วยแชมป์เข้ามาอย่างเป็นกอบเป็นกำได้
  • การคุมทีมตลอด 3 ปี ของทูเคิ่ลกับดอร์ทมุนด์ เขาสามารถนำทีมคว้าแชมป์ได้ 1 รายการ นั่นคือ แชมป์เดเอฟเบ-โพคาล ที่เฉือนชนะไอน์ทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต ในรอบชิงชนะเลิศ 2-1

เชลซีทีมการก้าวออกไปโชว์

5. การก้าวออกไปโชว์ฝีมือที่แดนน้ำหอม

การทำงานโค้ชเป็นระยะเวลาถึง 18 ปี ซึ่งล้วนแต่เป็นการทำงานในประเทศบ้านเกิดทั้งสิ้น ก่อนที่ฤดูกาล 2018/19 ทูเคิ่ลจะก้าวออกจากประเทศเยอรมัน พร้อมกับไปรับงานคุมทีมต่างแดนที่ฝรั่งเศส

  • เปเอสเช มีขุมกำลังที่เพียบพร้อม แต่ขาดแม่ทัพที่เชี่ยวชาญศึก อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็มีลองผิดลองถูกกับโค้ชหลายคน แต่ก็ไม่สามารถพาทีมไปสู่แชมป์ยุโรปได้สักที ซึ่งนับเป็นถ้วยเดียวที่สโมสรต้องการมากที่สุดในตอนนี้
  • การคุมในถิ่นปาร์ค เดอ แปร็งซ์ 2 ปีครึ่ง ทูเคิ่ล นำทีมคว้าแชมป์ลีกเอิง 2 สมัย, เฟรนช์ คัพ 1 สมัย และเฟรนช์ ลีก คัพ อีก 2 สมัย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่โค้ชก่อนหน้านี้ก็ทำได้ โดยการแข่งขันในถ้วยยูฟ่า แชมเปียนลีก ถือเป็นถ้วยที่ต้องเน้นที่สุด โดยปีแรกที่คุมทีมนั้นพ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบไป ก่อนที่ปีล่าสุดจะหลุดเข้าไปชิงชนะเลิศ แต่ก็มิอาจต้านทานบาเยิน มิวนิค ได้
  • แม้ว่าผลงานของเปเอสเช จะใกล้เคียงกับแชมป์ยุโรปมากกว่ากุนซือคนอื่นๆ แต่ความขัดแย้งกับบอร์ดบริหารในเรื่องนโยบายการซื้อตัวที่ทูเคิ่ลต้องการ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ทำให้ท้ายที่สุดทูเคิ่ลถูกปลดจากตำแหน่ง แต่ถึงกระนั้นก็ตกงานไม่นาน เพราตอนนี้มารับงานคุมทีมเชลซี เป็นสโมสรล่าสุดเรียบร้อยแล้ว

จาก 5 เรื่องราวเหล่านี้ น่าจะทำให้แฟนๆ สิงห์บูลและแฟนบอลทั่วไปได้รู้จักกับ โธมัส ทูเคิ่ล มากขึ้น อีกทั้งจากรายละเอียดและข้อมูล พวกเราน่าจะได้ข้อคิดดีๆ จากตัวกุนซือผู้นี้ ที่แม้ว่าการเป็นนักเตะจะไม่โด่งดังและไม่เป็นที่ยอมรับ แต่การทำงานอย่างหนักและพร้อมจะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาในสายอาชีพโค้ช พร้อมกับความกล้าที่จะเผชิญกับทุกโอกาสที่เข้ามา จึงทำให้เจ้าตัวค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาจนใครๆ ก็ต่างยอมรับ อีกทั้งใครๆ ก็อยากดึงตัวไปร่วมงานด้วย